• วงศ์ : Anacardiaceae
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica Linn.
• ชื่อสามัญ : Mango (Nam Dok Mai)
• ชื่อท้องถิ่น : มะม่วงน้ำดอกไม้
ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-20 ปี ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นสีดำอมเทา
มะม่วงน้ำดอกไม้ ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น แผ่นใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และเป็นมัน
มะม่วงน้ำดอกไม้ ออกดอกเป็นช่อแขนงที่ปลายกิ่ง บนช่อแขนงมีดอกย่อยจำนวนมาก แต่ละดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ทั้งนี้ ดอกมะม่วงน้ำดอกไม้มีทั้งดอกกระเทย และดอกสมบูรณ์เพศ ที่มีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน
ผลมะม่วงน้ำดอกไม้ มีลักษณะอ้วนจนถึงเกือบกลม ผลด้านขั้วผลมีขนาดใหญ่ และเล็กลงที่ท้ายผล ขนาดผลกว้างประมาณ 6.5-7.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร มีน้ำหนักต่อผลประมาณ 250-400 กรัม หรือมากกว่า ผลอ่อนมีสีเขียวนวล ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองทอง เปลือกค่อนข้างบาง จึงซ้ำง่าย ส่วนเนื้อผลมีสีเหลืองอมครีม เนื้อละเอียด มีรสหวาน และมีกลิ่นหอม ส่วนเมล็ดมีขนาดเล็ก และแบนลีบ ไม่มีเส้นใย
พันธุ์มะม่วงน้ำดอกไม้ที่นิยม
น้ำดอกไม้สีทอง เป็นมะม่วงที่กลายพันธุ์มาจากมะม่วงน้ำดอกไม้พระประแดง ผลดิบมีสีเขียวนวล เนื้อผลมีสีขาว มีรสเปรี้ยวจัด ผลแก่ที่อยู่บนต้นมีสีเหลืองอมครีม คล้ายกับมะม่วงสุก ผลเมื่อสุกจัดจะมีสีเหลืองอมส้มหรือสีเหลืองทอง เนื้อละเอียด และมีเสี้ยนเล็กน้อย น้ำหนักต่อผลประมาณ 300-400 กรัม ถือเป็นพันธุ์ที่มีเปลือกหนาขึ้น หนากว่ามะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์ 4 และมีความหวานมากกว่า นอกจากนั้น ทนโรค และแมลงได้ดี รวมถึงตอบสนองต่อการบังคับให้ติดผลนอกฤดูได้ดี
น้ำดอกไม้เบอร์ 4 ผลดิบมีสีเขียวนวล เนื้อมีสีขาวแน่น และหนา มีรสเปรี้ยวจัด ผลสุกมีสีเหลืองเข้มหรือเหลืองทอง เปลือกผลบาง เนื้อผลละเอียด ไม่มีเสี้ยน มีกลิ่นหอม ไม่มีเสี้ยน น้ำหนักผล 280-300 กรัม ความหวานประมาณ 19 องศาบริกซ์
1. ต้องเป็นต้นพันธุ์ที่ได้จากการทาบกิ่ง ติดตา หรือเสียบยอด กรณีที่ติดตาหรือเสียบยอดจะต้องมียอดพันธุ์ดี ยาวไม่น้อยกว่า 25 เซนติเมตร
2. ต้นกล้ามีความสูงไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร (โคนต้นถึงปลายยอด) และมีไม้ปักยึดข้างลำต้น
3. ต้นตอที่โคนต้น ต้องมีเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า 2.5 เซนติเมตร หรือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 0.8 เซนติเมตร
4. มีลักษณะของต้น และใบสมบูรณ์ และแข็งแรงตามสภาพปกติ ไม่ลักษณะของต้นที่ขาดธาตุอาหารหรือมีการเข้าทำลายของโรค และแมลง จนมีผลต่อการเติบโต
5. ภาชนะบรรจุ
– กระถาง ต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางของกระถาง ประมาณ 20 เซนติเมตร (วัดจากขอบนอกกระถาง)
– ถุงพลาสติก ต้องมีขนาดของถุงพลาสติก ประมาณ 20 X 25 เซนติเมตร (กว้าง X ยาว)
– กระชุไม้ไผ่ ต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางของกระชุไม้ไผ่ ประมาณ 15 เซนติเมตร มีสภาพไม้ดี สามารถขนส่งในระยะทางไกลได้สะดวก และใช้ดินผสมเป็นวัสดุเพาะชำ
6. ต้องชำในภาชนะบรรจุตั้งแต่ 1 เดือน ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 6 เดือน เมื่อถอนขึ้นมาดู มีการเจริญของราก และสามารถเห็นได้ชัดเจน
7. ต้องมีป้ายถาวรติดที่ต้นพันธุ์ที่ระบุชื่อพันธุ์ ชื่อผู้ผลิต สถานที่ผลิต และวันเดือนปีที่เพาะชำ โดยผูกติดกับต้นหรือภาชนะ และสามารถตรวจสอบได้
ประโยชน์มะม่วงน้ำดอกไม้
2. มะม่วงน้ำดอกไม้ นิยมใช้ทำขนมหวาน โดยเฉพาะข้าวเหนียวมะม่วง
3. มะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ แปรรูปเป็นมะม่วงดอง เนื่องจากมีรสเปรี้ยวสูง ส่วนผลสุกแปรรูปเป็นมะม่วงกวนหรือ มะม่วงในน้ำเชื่อม และแยมมะม่วง เป็นต้น
5. ก้านยอดอ่อน และยอดอ่อนมีรสเปรี้ยว ใช้รับประทานเป็นผักคู่กับอาหารอื่น อาทิ ลาบ ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
6. เปลือกลำต้นใช้ต้มย้อมผ้า ให้ผ้าสีน้ำตาล
7. เนื้อไม้จากต้นขนาดใหญ่ แปรรูปเป็นไม้สำหรับก่อสร้างบ้าน อาทิ ไม้ปูพื้น ปูฝ้า หรือแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ต่างๆ
– พลังงาน 60.0 กิโลแคลอรี
– โปรตีน 0.6 กรัม
– ไขมัน 0.3 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต 15.9 กรัม
– ใยอาหาร 0.5 กรัม
– แคลเซียม 10.0 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส 15.0 กรัม
– ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
– วิตามินเอ 133.0 IU
– วิตามินซี 36.0 มิลลิกรัม
สารสำคัญที่พบ
– 3-carene
– α-phellandren
– Succinic acid
– Malic acid
– Citric acid
– Oxalic acid
– Quinic acid
– Formic acid
– Acetic acid
– Fumaric acid
สรรพคุณมะม่วงน้ำดอกไม้
– ป้องกันโรคเบาหวาน ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด
– ป้องกันโรคหัวใจ
– ป้องกันโรคมะเร็ง
– กระตุ้นการขับถ่าย
– ช่วยดับกระหาย
– แก้อาการไอ
– ช่วยละลายเสมหะ
– แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน
– ช่วยขับปัสสาวะ
– กระตุ้นเลือดลมของสตรีเป็นปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น